ว่ากันด้วยเรื่องของเครื่องแต่งกายสไตล์ไทยๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น “ผ้าไหม” กันใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งผ้าไหมไทยนั้นเป็นอย่างไร มีกี่แบบ วันนี้เราจึงอยากพาไปสำรวจและค้นคว้าหาความรู้กันครับ

ทำความรู้จักกับ ผ้าไหมไทย

ผ้าไหมไทย (Slik Thai) คือ ทำขึ้นมาจากเส้นใยธรรมชาติ ที่ได้จากสัตว์หนอนไหมที่เลี้ยงในประเทศไทยโดยเฉพาะ นำมาผ่านกระบวนการสางเส้นใย และนำมาทักทอให้เป็นลวดลายบนพื้นผ้าที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการทอ เช่น จก ยก ขิด ขัด เป็นต้น

เราสามารถแบ่งประเภทของผ้าไหมไทยด้วยอะไรบ้าง?

●ผ้าไหมทอมือลายขัด เป็นผ้าไหมที่ทอด้วยวิธีการธรรมดาด้วยวิธีการสานขัดกันโดยใช้เส้นยืน และเส้นพุ่ง อาจเป็นสีเดียวกันหรือใช้สีต่างกัน ขัดสานกัน โดยเนื้อผ้าที่ได้จะเป็นเนื้อเรียบตลอดทั้งผืน เป็นผ้าที่นิยมใช้กันทั่วไปเพื่อนำมาตัดเป็นเสื้อผ้าหรือประดิษฐ์ใช้ประโยชน์อื่นๆ อาทิ หมอน บุเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังเป็นผ้าไหมไทยที่ส่งออกต่างประเทศ

●ผ้าไหมมัดหมี่ เป็นศิลปะการทอผ้าพื้นเมืองชนิดหนึ่งนิยมทำมานานแล้ว ในภาคอีสาน และบางท้องที่ในเขตภาคกลาง เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี กาญจนบุรี ลพบุรี และชัยนาท

วิธีการทำผ้ามัดหมี่ คือการมัดด้ายให้เป็นลายที่เส้นพุ่งหรือเส้นยืนด้วยเชือกแล้วนำไปย้อมสี โดยบริเวณที่ถูกมัดจะไม่ถูกการย้อมติดสีแล้วจึงนำมาทอเป็นผ้าเพื่อให้เกิดลวดลายตามต้องการ ทั้งนี้อาจต้องย้อมมัดหมี่หลายครั้งเพื่อให้เกิดลวดลายที่มีสีสัน และสวยงามมากขึ้น บางแห่งมีการทอผ้ามัดหมี่สลับกันกับลายขิด เพื่อเพิ่มความงดงามให้แก่ผ้าไหมมากยิ่งขึ้น ส่วนผ้ามัดหมี่จากสุรินทร์มีชื่อเสียงทั้งในด้านความสวยงามของเส้นไหม และลวดลายซึ่งได้รับอิทธิพลจากเขมร ในปัจจุบันมีการทอผ้ามัดหมี่กับหลายรูปแบบ มีการดัดแปลงลายพื้นบ้านผสมกับลายโบราณที่ถ่ายทอดสืบต่อมาเรื่อย ๆ อีกทั้งปัจจุบันผ้าไหมมัดหมี่ได้มีการนำมาออกแบบเสื้อผ้าสตรี บุรุษได้อย่างสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นมาก

●ผ้าจก เป็นผ้าที่มีการทอลักษณะคล้ายผ้าขิด ต่างกันที่ผ้าจกสามารถสร้างลวดลายได้หลายสีในแถวเดียวกัน ด้วยการควักเส้นไหมขึ้นมาจากข้างล่างสอดสลับเป็นลวดลายตามต้องการ โดยใช้ขนเม่น แต่ลายขิดแต่ละหน่วยไม่อาจทำหลายสีสลับกันได้เพราะใช้เส้นพุ่งเส้นเดียวตลอดในแต่ละครั้ง ผ้าจกส่วนมากนิยมทำเป็นผ้าสไบ (ผ้าเบี่ยง) ที่รู้จักกันดีได้แก่ ผ้าไหมแพรวาของจังหวัดกาฬสินธุ์ นอกจากนั้นยังนิยมทำเป็นตีนซิ่นอีกด้วย

5. ผ้ายก เป็นการทอผ้าไหมที่ทอยกลายให้สูงจากพื้นผ้า โดยใช้เส้นพุ่งพิเศษ เป็นดิ้นเงิน ดิ้นทองหรือไหมสีต่างๆเพื่อให้เกิดลวดลายตามแนวที่ต้องการ โดยวิธีการเก็บตะกอเช่นเดียวกับการทอขิด ผ้ายกถือเป็นผ้าที่หาซื้อยาก ราคาแพง นิยมใส่ในกลุ่มชนชั้นสูง เนื่องด้วยเป็นการทอที่ต้องใช้ความประณีต มีความสลับซับซ้อน และใช้เวลาทอนานมาก ถ้ามีลวดลายหรือต้องแต่งพิเศษมาก ก็ต้องใช้ความละเอียดประณีตในการทอมากเช่นกัน บางครั้งผ้าที่มีความยาว 3 หลา ต้องใช้เวลาทอถึง 3 เดือน นอกจากนั้น ยังเป็นผ้าทอที่ใช้ในพระราชวัง ทั้งชุดแต่งกายหรือเนื่องในโอกาสพิเศษเท่านั้น

●ผ้าไหมลายน้ำไหล หรือเรียกชื่ออื่น อาทิ ผ้าเกาะหรือผ้าล้วง เป็นผ้าทอที่ทอให้มีลวดลายโดยใช้เทคนิคการทอ ลายขัดแต่ใช้เส้นด้ายพุ่งหลายสี ทอ (เกาะ) เป็นช่วงๆ โดยการเกี่ยวและผูกเป็นห่วงรอบเส้นด้ายยืน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อผ้า อาจผสมผสานกับลวดลายอื่น เช่น ลายจก ลายขิด เป็นต้น

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ลายผ้าไทยมีกี่แบบกันนะ” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้น เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ ไม่มากก็น้อยครับ