3 สาเหตุที่ต้องทำให้ เปลี่ยนประกันรถยนต์

ปรกติคนที่ซื้อประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นชั้นไหนก็ตาม ส่วนใหญ่ก็มักจะต้องมีการต่อประกันกันแบบปีต่อปี เมื่อครบกำหนดแล้ว เราก็ต้องต่อประกันใหม่อีกครั้ง สิ่งที่หลายคนคิดก่อนที่จะทำการต่อประกันก็คือ เราจะต่อกับบริษัทประกันเดิมหรือไม่ หรือว่าจะเลือกบริษัทประกันใหม่ดี นี่เป็นสิ่งที่หลายคนคิดก่อนที่จะต่อประกันรถยนต์ แต่ส่วนใหญ่คนที่ เปลี่ยนประกันรถยนต์ นั้น ก็มีหลายสาเหตุเนื่องจาก

เปลี่ยนประกันรถยนต์

-จ่ายแพงแต่ไม่คุ้มกับความคุ้มครอง เป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะเปลี่ยนประกันจากเดิม เพราะคงไม่มีใครยอเสียค่าประกันแพง แต่ไม่รับการคุ้มครองไม่ดีพอ จึงทำให้ต้องเปลี่ยนประกันไปบริษัทที่ดีกว่า บางคนถึงกับเปลี่ยน โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงกำหนดการต่อประกันด้วยซ้ำ เพราะประกันที่ทำเอาไว้ช่วยอะไรไม่ได้เท่าที่ควร

-การบริการไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเราไม่รู้เลยว่า ขณะที่เราทำประกันภัยนั้น ประกันแต่ละบริษัทจะให้บริการจริงๆ เป็นอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นนั่นแหละ เราถึงจะรู้ว่าประกันที่เราทำนั้น มันคุ้มค่าหรือเป็นที่พอใจของเราหรือไม่ อย่างเช่นบางทีมาถึงที่เกิดเหตุช้า ต้องรอนานหลายชั่วโมง หรือเคลมยาก มีขั้นตอนเยอะ อันนี้ก็เป็นสาเหตุที่หลายคนเลือก เปลี่ยนประกันรถยนต์ ทันทีเหมือนกัน

-เจอตัวเลือกที่ดีกว่า ถ้าเราใช้ประกันที่มีราคาสูงอยู่แล้ว แต่ปรากฎว่า การให้บริการและความคุ้มครองไม่ดีเท่าที่ควร แต่เมื่อไปเห็นข้อเสนอของบริษัทอื่น หรือการให้บริการของบริษัทอื่นที่ดีกว่า แถวราคายังเท่ากันอีกด้วย ก็อาจจะทำให้หลายคนเลือกที่จะเปลี่ยนประกันใหม่

ซึ่งการเปลี่ยนประกันนั้น มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเราจะได้บริษัทประกันที่ถูกใจมากขึ้น ทั้งการให้บริการและดอกเบี้ยสำหรับการจ่ายค่าประกัน  เพราะก่อนที่เราจะ เปลี่ยนประกันรถยนต์ เราก็ต้องศึกษาและหาข้อมูลมาดีอยู่แล้ว ว่าบริษัทประกันที่เราจะเลือกนั้นเป็นอย่างไร สมควรจะเปลี่ยนหรือไม่ และที่สำคัญเลย เราได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิมด้วย หลายคนกังวลเรื่องดอกเบี้ยของประกัน ก็มักจะเปลี่ยนบริษัทประกันใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับราคาที่เราสามารถจ่ายได้

เมื่อมีข้อดีก็ต้องมข้อเสียเหมือนกัน ในกรณีที่เราเปลี่ยนประกัน เราจะเสียหลายอย่างเหมือนกันเช่น เสียส่วนลดประวัติดี เพราะดอกเบี้ยส่วนลดประวัติดี จะลดลงเมื่อเรามีอายุประกันมากขึ้น ยิ่งเราใช้ประกันมานาน และไม่เคยเคลมเลย เราก็จะมีดอกเบี้ยที่ลดลงมากกว่าเรื่อยๆ เป็นรายปี และอีกอย่าง เมื่อเราเปลี่ยนไปแล้วโดยที่ไม่ดูให้ดีกว่าว่า บริษัทที่เราเปลี่ยนไปนั้นแตกต่าง หรือเป็นอย่างไงรในเรื่องของการให้บริการ ก็อาจจะทำให้เรามาเสียใจทีหลัง ในกรณีที่บริษัทประกันที่เราเปลี่ยน ไม่ได้ดีเหมือนที่คิดเอาไว้

คนที่ต้องการจะ เปลี่ยนประกันรถยนต์จะต้องมีการหาข้อมูลของบริษัทที่เราจะเปลี่ยน และต้องดูข้อเสียแต่ละอย่างก่อนว่า มันคุ้มกับการเปลี่ยนหรือไม่ เพราะถ้าเปลี่ยนแล้วไม่ดีกว่าเดิม มันก็อาจจะทำให้เราเสียทั้งเวลา และเสียทั้งค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย ควรจะดูข้อดีข้อสียหลายๆ อย่างประกอบกัน อันไหนที่เราคิดว่าคุ้มกว่าก็เลือกเอาอันนั้น จึงจะดีที่สุด